
2520 | ก่อตั้งบริษัทไทยยูรีเทนอินดัสเทรียล จำกัด ซึ่งเป็นโรงงานผลิตหนังเทียมโพลียูรีเทน dry process |
2528 | ก่อตั้งบริษัทไทยยูรีเทนพลาสติก จำกัด (TUP) ซึ่งเป็นโรงงานผลิตหนังเทียมโพลียูรีเทน Wet process |
2530 | ติดตั้ง หอกลั่น DMF หอที่ 1 เพื่อนำ DMF กลับมาใช้กระบวนการ |
2531 | เพิ่มกำลังการผลิตหนังเทียมโพลียูรีเทน โดยติดตั้งเครื่องจักรสำหรับสายการผลิตที่ 2 ทั้ง Wet และ Dry process |
2532 | เริ่มการผลิตเรซินสังเคราะห์สำหรับใช้ในการผลิตหนังเทียม |
2533 | ติดตั้ง หอกลั่น DMF หอที่ 2 |
2536 | เริ่มการผลิตเรซิ่นสังเคราะห์ในกลุ่ม - Alkyd resin - Unsaturated polyester resin - Amino resin - Acrylic resin - Polyurethane system for shoe sole |
2537 | ติดตั้งเครื่องจักรสำหรับผลิตหนังเทียมโพลียูรีเทน Wet process สำหรับสายการผลิตที่ 3 เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตให้เป็น 1,000,000 เมตรต่อเดือน |
2539 | ร่วมทุนกับ Mitsubishi Rayon Co., Ltd.ประเทศญี่ปุ่น ก่อตั้งบริษัท เอ็ม อาร์ ซี เรซิ่น (ประเทศไทย) ซึ่งเป็นโรงงานผลิตเรซิ่นสังเคราะห์ในกลุ่ม Acrylic resin |
2540 | Saturated Polyester Powder resins ภายใต้ know how ของ Resinas Sinteticas S.A. หรือ Resisa ซึ่งปัจจุบันคือ Cray Valley ประเทศสเปน |
2543 | ร่วมทุนกับ Akzo Nobel Chemicals International B.V. ประเทศเนเธอร์ แลนด์ ก่อตั้งบริษัท ซินธีส (ประเทศไทย) จำกัด เพื่อดำเนินธุรกิจการขายเรซิ่นสังเคราะห์ในกลุ่ม Alkyd, Amino and Polyester powder resin โดยปัจจุบัน Allnex ประเทศเยอรมัน ได้เข้าซื้อธุรกิจเรซินจาก Nuplex เป็นผู้ถือหุ้นแทน Akzo Noble ในปี 2559 |
2545 | ร่วมมือทางเทคโนโลยีการผลิตหนังเทียมโพลียูรีเทนสำหรับใช้เป็นวัตถุดิบ ของอุปกรณ์กีฬา กับบริษัท Kanebo ประเทศญี่ปุ่น |
2560 | บริษัท เอ็มอาร์ซี เรซิน(ประเทศไทย) จำกัด เปลี่ยนชื่อเป็น บริษัท เอ็มอาร์ที เรซิน (ประเทศไทย) จำกัด โดยบริษัทร่วมทุน Misubishi Reyon Co., Ltd. เปลี่ยนชื่อเป็น Mishubishi Chemical Cooperation (MCC) |